
เจาะลึกความท้าทายใหม่ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ปี 2023 ที่องค์กรต้องรู้
Trend Micro เปิดความท้าทายด้าน ความปลอดภัยไซเบอร์ ปี 2023 พร้อมชี้ Cybersecurity จะเป็นกลจักรสำคัญ ขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต
ในตอน 2 ปีที่ผ่านมา แนวทางการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) เติบโตอย่างเร็วมากขึ้น ธุรกิจ นำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ สำหรับในการช่วยปรับปรุงธุรกิจ ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงนำข้อมูล มาวิเคราะห์เพื่อช่วยเหลือการตลาด และก็ รู้เรื่องลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เวลาที่หลักการทำงานของคน ถูกแปรไปเป็นแบบรีโมทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (Remote Working) นำมาซึ่งการทำให้ องค์กรทุกขนาด จำต้องปรับตัววางแผนดำเนินการผ่าน คลาวด์ (Cloud) เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นางสาวปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูลของ Gartner ซึ่งเป็นบริษัทศึกษาค้นคว้า รวมทั้ง วิเคราะห์ข้อมูลทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นแนวหน้าของโลก กล่าวว่า ในปี 2025 องค์กรทั่วโลก จะใช้จ่ายกับคลาวด์เยอะขึ้น 20.4% ในเวลาที่ประเทศไทย เติบโตขึ้นถึง 36.6%
เมื่อส่วนประกอบเบื้องต้นเดินหน้าไปสู่การใช้คลาวด์ ทำให้ระบบ Security เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุว่า องค์กรต่างจำเป็นต้องรักษาข้อมูล (Data) ซึ่ง เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ ให้ไม่มีอันตราย
“เพราะฉะนั้นองค์กรที่ย้ายไปใช้คลาวด์ จะต้องวางแผนและดึงเรื่อง Security เข้ามามีบทบาทมากขึ้น จะต้องวางรากฐานด้านความปลอดภัยไว้ตั้งแต่เริ่มต้น”
เตรียมรับมือ ความท้าทายใหม่ ความปลอดภัยไซเบอร์ Security ในปี 2023
ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่คลาวด์นั้น ยังมีความท้าทายจากพนักงานฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็น การย้ายระบบต่าง ๆ จากเซิร์ฟเวอร์บริษัท (On Premise) ขึ้นไปใช้บนคลาวด์ การตั้งค่าต่าง ๆ บนคลาวด์ให้ Compile ตามมาตรฐานสากล GDPR ของสหภาพยุโรป แล้วก็ PDPA ของไทย รวมถึงการศึกษาเครื่องมือ (Tools) ต่าง ๆ จากคลาวด์หลาย ๆ รายพร้อม เวลาเดียวกันยังจำเป็นต้องรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น ในปี 2023 ซึ่ง ทาง Trend Micro ได้คาดการณ์ไว้ ดังนี้
การนำ Tools ใหม่ ที่ไม่สอดคล้องต้องกันมาใช้ จะไม่ดีต่อองค์กร – ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีใหม่ ๆ ถูกนำเข้ามาใช้อย่างเร็ว ช่วงเวลาที่ ประธาน หรือ พนักงาน ยังไม่คุ้นเคยกับระบบต่าง ๆ ทำให้ไม่มีความรู้ ด้านการบริหารข้อมูล
Ransomware จะรับมือยากขึ้น – การจู่โจมจะถูกเปลี่ยนแปลงจากการจู่โจมที่จุดเดียว เป็นการโจมตีแบบ Series หรือ กระจายกำลังจู่โจมหลายจุด ทำให้องค์กรจัดการได้ยากขึ้น และ การจู่โจม จะไม่ใช่เพื่อความสนุกสนานอีกต่อไป แต่จะเป็นธุรกิจ หรือ ransomware-as-a-service ซึ่ง ถ้าประธาน รวมทั้ง ผู้ใช้ไม่มีความรู้ จะถูกจู่โจมได้ง่ายขึ้น
ขอบเขตขององค์กร (Enterprise Perimeter) คือ ทุกแห่ง – การจะเดินหน้าธุรกิจ องค์กรจำต้องรองรับการทำงาน แบบ Hybrid ซึ่ง การวางรากฐานให้ปฏิบัติงานจากที่ใดก็ได้นั้น จะมีความจำเป็นเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันจำเป็นต้องคุ้มครองการโจมตี ที่เกิดจากการทำงานแบบรีโมท ด้วยเช่นเดียวกัน
ภัยรุกรามทางสังคม (Social Engineering) จะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง – การหลอกลวงบนเครือข่ายสังคม มีการปรับปรุงเยอะขึ้นเรื่อยๆ ในปีที่ผ่านมานั้นมีทั้งการส่งข้อความ โทรศัพท์มาปลอมตัว ว่าเป็นคนรู้จัก ซึ่ง คนพวกนี้ได้มอนิเตอร์พฤติกรรม และก็ เลือกหลอกเงิน ในจำนวนซึ่งสามารถให้ได้ ซึ่งภัยรุกรามรูปแบบนี้ Trend Micro ได้คอยเตือนผู้ใช้อยู่เสมอ ในช่วงเวลา 3 ปี ก่อนหน้าที่ผ่านมา
ช่องโหว่ (Vulnerabilities) จากโปรแกรม จะตกเป็นเป้าจู่โจม – การย้ายข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นสู่คลาวด์ หลายองค์กรชอบเลือกใช้โปรแกรม ที่เป็น Open – source เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมิได้คิดถึงความปลอดภัย จากช่องโหว่ของโปรแกรม
โรงงานอุตสาหกรรม (Industrial) จะกลายเป็นเป้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ – อุตสาหกรรมในยุค 4.0 นั้น ใช้ระบบออโตเมชัน และ ระบบอินเทอร์เน็ต เข้ามาควบคุมการทำงานเป็นหลัก การทำงานในโรงงาน จึงไม่ใช่ระบบปิดอีกต่อไป สามารถถูกจู่โจมจนสายการสร้างหยุดทำงานได้เช่นเดียวกัน จากเทรนด์ดังที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่า
Cybersecurity เข้ามามีหน้าที่มากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดความโปร่งใสสำหรับการทำธุรกิจ และ ยังสามารถพินิจพิจารณา เดา ว่าองค์กรจำเป็นที่จะต้องต่อกรกับอะไรบ้างในอนาคต และ จะป้องกันตัวเองอย่างไร
Cybersecurity ขับเคลื่อนผ่าน People, Process รวมทั้ง Technology
จากความท้าทายใหม่ ความปลอดภัยไซเบอร์ หรือ Security ในปี 2023 องค์กรจำต้องต่อกรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการขับเคลื่อนองค์กร ด้วยข้อมูลนั้น ขยายตัวเยอะขึ้น ตั้งแต่การวิเคราะห์ ทั้งผลประกอบการ กลยุทธ์ และก็ เมื่อข้อมูลเป็นขุมเงินขุมทองที่สำคัญ ขององค์กร หากถูกจู่โจม จนกระทั่งเสียหาย จะก่อให้ลูกค้าขาดความมั่นใจและความเชื่อมั่น ขณะเดียวกันคู่ปรับก็บางครั้งก็อาจจะใช้โอกาสนี้ สำหรับการจัดแคมเปญเพื่อเอาชนะในทางธุรกิจ
ฉะนั้น องค์กรก็เลยจำเป็นต้องให้ความใส่ใจกับ 3 ส่วน ดังนี้
People – ด้วยเหตุว่า เหตุของการถูกโจมตีส่วนใหญ่นั้น มาจากการขาดวิชาความรู้ รวมทั้ง ลักษณะการจู่โจม มีการพัฒนาเปลี่ยนอยู่เสมอเวลา องค์กรควรจะให้ความใส่ใจกับการผลิต ความตระหนักรู้ ด้าน Cybersecurity กับบุคลากร อย่างต่อเนื่อง เพื่อ สร้างความมั่นคงให้กับองค์กร ในระยะยาว
Process – ปรับกระบวนการทำงาน ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นการทำงาน ด้วยเทคโนโลยี เพื่อไปสู่วัตถุประสงค์องค์กร ปัจจุบันคนทำงานได้จากทุกที่ องค์กรจะต้องพร้อมสำหรับการจัดแจงอุปกรณ์ ให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่อการทำงานได้ เปลี่ยนแปลงระบบ Manual ต่าง ๆ ให้เป็น Automation เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อความรวดเร็ว แล้วก็ ลดความยุ่งยาก ของการเดินเอกสาร
Technology – วางองค์ประกอบเบื้องต้นทางเทคโนโลยี ให้มีความพร้อม ด้านการรักษาความปลอดภัย โดยยิ่งไปกว่านั้นองค์กรที่ย้ายข้อมูลขึ้นไปบนคลาวด์ จึงควรสร้างความแข็งแรง เลือกพาร์ทเนอร์ที่เข้ามาเกื้อหนุนเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ที่มีทิศทาง การพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต สามารถเปิด API รองรับกับคลาวด์ต่าง ๆ ได้ รวมถึงการมีทีมส่งเสริมที่แข็งแรง
Cybersecurity Platform หัวใจหลัก ที่ตอบโจทย์ลูกค้า Trend Micro
อย่างไรก็ตาม Trend Micro มีเป้าหมายกระจ่างแจ้งสำหรับเพื่อการสร้าง Cybersecurity Platform ผ่านการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับลูกค้า มากกว่าแค่ขายโซลูชัน เพราะเหตุว่าต้องการบูรณาการ องค์ประกอบเบื้องต้นของลูกค้าทั้งระบบ ให้มีความโปร่งสบายใส สามารถตรวจสอบภัยคุกคาม เพื่อปกป้องเชิงรุกได้ (Threat Hunting) รวมถึงการตอบกลับต่อภัยรุกรามอย่างทันการ (Incident Response) ซึ่ง เป็นจุดเด่นของสินค้า
ด้านการให้ความรู้ความเข้าใจ บริษัทออกแบบเทรนนิ่ง ให้กับลูกค้า โดยแบ่งเป็นหลักสูตรสำหรับ C Level , Operation, IT รวมทั้ง End User แยกจากกัน เพราะเหตุว่า แบบการถูกโจมตีของพนักงานแต่ละระดับนั้น ไม่เหมือนกัน ถ้าผู้ใช้เพียงผู้เดียวในบริษัทที่ไม่มีความรู้ หรือไม่ตระหนักถึงความปลอดภัย ก็อาจส่งผลให้องค์กรถูกโจมตีจนกระทั่งเสียหายทั้งบริษัทได้
เวลาเดียวกัน Trend Micro มีผู้สนับสนุนระดับนานาชาติ ทั้ง AWS, Google และ Microsoft รวมทั้ง สิ่งสำคัญสุดท้ายคือ Trend Micro มีทีมช่วยเหลือที่แข็งแรง มีผู้ที่มีความรู้ ความชำนิชำนาญด้าน Cybersecurity ในเมืองไทย แล้วก็ผ่านการดูแลลูกค้าคนไทยมามากยิ่งกว่า 18 ปี
ทั้งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ธนาคาร รวมถึงภาครัฐ โดยเหตุนี้ การมีรากฐานด้านความปลอดภัยที่มั่นคงแข็งแรง จะมีผลให้องค์กรสามารถปกป้องข้อมูล ไม่ให้หลุดออกไปด้านนอก แล้วก็ ยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจต่อลูกค้า ที่เข้ามาใช้บริการได้อีกด้วย